การเคลมประกันรถยนต์
วันนี้ว่าด้วยเรื่องเทคนิค การเคลมประกัน ที่ทุกคนควรจะรู้ครับ
-ประกันชั้น 1 ไม่จ่ายในกรณีที่ขับๆรถไปแล้วรถยางแตก รั่ว แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยางแตกหรือ รั่ว เคลมประกัน จ่าย ครึ่งราคายางใหม่ เพราะฉนั้นถ้าขับรถไปยางแตกหรือรั่ว เปลี่ยนยางแล้วเก็บยางไว้ รอเกิดอุบัติเหตุแล้ว แจ้งความเสียหาย ว่า มียางแตกด้วย แต่ต้องสมเหตุสมผลด้วยนะครับ
-ประกัน 3+ ไม่จ่ายเวลาชนกับอย่างอื่นที่ไม่ใช่รถ ถ้าชนเสา ชนประตู แนะนำว่าโทรตามเพื่อนที่มีแผลต้องซ่อม รอวันว่างๆ จัดฉากเลยครับ อย่าลืมคำนี้เด็ดขาด สมเหตุสมผลๆ
-การเคลมประกัน ทำสีรอบคัน หลายคนชอบรอจนประกัน ใกล้ๆจะหมดแล้วก็ตามประกัน มาเคลมๆๆๆ โดนค่าเสียหายส่วนแรกบานครับ แถมน้องคนที่ทำเรื่องอาจซวยไปด้วย ฐานสมรู้ร่วมคิดครับ เทคนิค คือ ต้องวาง แพลนกันนิดหน่อย 2 อาทิตย์เรียกเคลมทีนึงครับ ฝั่งซ้ายก่อน อีก 2 อาทิตย์ ก็ฝั่งขวา แล้วก็ ด้านหน้า ด้านหลัง ไม่ควรเคลมเกินครั้งละ 5 จุด เน้นเฉพาะจุดใหญ่ๆนะ ใช้เวลา ไม่เกิน เดือนครึ่ง อาจจะไม่ครบทุกชิ้นแต่ ก็เรียบร้อยแล้ว เสร็จแล้วก็รวบรวมใบเคลม ทั้งหมด ไปที่อู่ที่รับเคลมประกันครับ บอกไปเลยครับว่าเนี่ยมีใบเคลมทั้งหมดเนี่ย ทำสีรอบคันเลยนะเฮีย ถ้าขาดไปชิ้น สอง ชิ้น ส่วนใหญ่จะไม่คิดเงินเพิ่มครับ
-คนที่ขายประกันคุณ นี่ต้องตีซี้ แล้วก็ถามตรงๆเลยว่า เคสไหน เคลมประกันทำได้ เคลมประกันทำไม่ได้ เคสนี้ควรทำยังไง ถ้าเขาไม่ปกป้องผลประโยชน์ให้เรา เราก็ไม่ควรซื้อ ประกันเค้าครับ
-ของแต่งรถแพงๆแจ้งไว้เลยครับ ยิ่งเปลี่ยนมาทีหลังยิ่งต้องรีบแจ้ง
-ประกันไหนที่ไหนดี โทรถามอู่เลยครับ เฮียๆยี่ห้อไหนเฮียไม่รับรถมาทำบ้าง ประกันไหน ที่อู่ส่วนมากรับทำ ประกันนั่นแหละครับดี
-ถ้าไม่เคลมทั้งปีเราต้องได้ส่วนลดขับดี ถ้าไม่มีแปลว่าคนขายเม้มแล้วละ
การทำอะไรที่มันไม่สุจริตมันไม่ดีนะครับ วิธีการนี้คุณรู้ ผมรู้ ประกันก็รู้ครับ แต่ส่วนมากจะปล่อยๆ ถ้ามันไม่มากจนเกินไป ถ้าไม่เดือดร้อนจริงๆ แบบ “เฮ้ยเดือนนี้ตรูเบื่อสีเขียวขี้ม้าแล้ววะ เดี๋ยวๆเดือนหน้าเปลี่ยน เป็นสีขาวขี้หมาดีกว่าเฟร้ย” อันนี้มันก็ไม่ควรครับ ถ้าไม่ลำบากจริงๆก็ไม่แนะนำนะคร้าบบ
*บริษัทประกันภัย*
ไม่มีกล้องวงจรปิด คอยส่องดูว่าเวลาเกิดเป็นอย่างไร เกิดจริงหรือไม่จริง หรือจะหาพยานรู้เห็นมาคอยตอบว่าเกิดเหตุ อย่างไร ก็คงลำบาก โดยหลักแล้ว บริษัทประกันภัย จะถือการให้ปากคำของ ผู้ขับขี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุด คือ “สุจริต” หากบริษัทประกันภัย ตรวจสอบพบผู้ขับขี่โกหก หรือให้ปากคำอันเป็นเท็จ ประกันภัยก็อาจไม่รับผิดชอบได้ เวลาเคลม พนักงานเคลมก็ จะให้เรากรองข้อความในใบเคลมว่า
วันไหนเวลาใด ขับรถจากไหนไปไหน และเกิดอุบัติเหตุอย่างไรมีอะไรเสียหายบ้าง ซึ่งจริงๆเป็นจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผู้ขับขี่บางคนก็ บอกมั่วๆไป โดยไม่เจตนา เพราะจำไม่ได้บ้าง เก็บแผลไว้นานมากแล้วต่อ
อายุประกันมา 3 ปี สนิมขึ้นแล้ว เพิ่งมาเคลมก็มี แต่ถ้ามันเป็นการเกิดเหตุจริงๆ ไม่ได้กระทำเองหรือเจตนาให้มันเกิดความเสียหาย นั้นก็ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์แน่นอน = ท่องไว้ครับต้องสมเหตุสมผลๆ
เครดิต http://usedcar.exteen.com/20081105/entry
Cr. https://www.phithan-usedcar.com/usedcar_article_phithan.php?phithan_id=97
Recent Comments