กำจัดกลิ่นบุหรี่ในรถ ไม่ยาก
มีผู้ขับขี่จำนวนไม่น้อยมักจะสูบบุหรี่ขณะขับรถ ด้วยความเข้าใจอย่างหนึ่งว่า การเปิดกระจกสูบบุหรี่ แล้วขับรถไปด้วยนั้นลมจะช่วยพัดเอากลิ่นบุหรี่ออกไปด้านนอก ทำให้ห้องโดยสารไม่เหม็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่เปิดกระจกยิ่งทำให้ควันบุหรี่โถมเข้าสู่ห้องโดยสาร ยิ่งทำให้กลิ่นควันบุหรี่นั้นติดแน่นมากขึ้น และ ที่สำคัญสารก่อมะเร็งก็อาจเกาะแน่นอยู่ภายในห้องโดยสารด้วย ปัญหากลิ่นควันบุหรี่ส่วนใหญ่ เป็นปัญหาที่ยากมากในการจัดการ โดยเฉพาะการกำจัดกลิ่นนี้ให้หมดไป หากใครกำลังมองหาวิธีขจัดกลิ่นบุหรี่วันนี้เรามีวิธีกำจัดกลิ่นบุหรี่มาฝากกัน
สเปร์ยปรับอากาศ นับว่าเป็นทางเลือกอันดับแรก ในการขจัดกลิ่นต่างๆ ซึ่งในปัจจุบัน สเปร์ยปรับอากาศ มีให้เลือกด้วยกัน 2 ชนิด คือ สเปร์ยสร้างกลิ่น และ ดับกลิ่น ให้คุณเลือกสเปร์ยแบบที่ 2 มาใช้ ซึ่งมีจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป จากนั้นให้ฉีดให้ทั่วรถโดยเฉพาะในช่องแอร์ และ ซอกต่างๆ จากนั้น ปิดประตูทิ้งไว้ 1 คืน โดยประมาณ และ เมื่อจะใช้รถก็ให้เปิดหน้ากระจกเพื่อระบายอากาศออกให้หมด.
ทำความสะอาดภายใน เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนแรกไปแล้ว ในกรณีที่กลิ่นบุหรี่ไม่หนักมาก กลิ่นก็อาจจะหายทันที แต่อย่างเพิ่งวางใจนะครับ เพราะควันนั้นมีอยู่ในทุก ๆ ที่ โดยเฉพาะปัจจุบัน รถแทบทุกรุ่นมีการบุพรมมาซึ่งทางที่ดีเราต้องซักพรมให้สะอาดเสียก่อน เช่นเดียวกับเบาะนั่ง ถ้าเบาะนั่งคุณเป็นเบาะผ้าถือเป็นการขจัดกลิ่นได้ดีทีเดียวไม่ใช่แค่เพียงพรมเท่านั้น แต่ชุดพลาสติกภายในต่างๆโดยเฉพาะกระจกและแผงประตูต่างๆนั้น ยังเป็นที่เกาะของควันบุหรี่ด้วยเช่นกัน ซึ่งในการขจัดกลิ่นออกจากอุปกรณ์เหล่านี้นั้น ควรใช้น้ำเปล่าผสมกับน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อให้คราบออกง่ายผสมน้ำส้มสายชูอีก 1 ช้อนชา ไม่ว่าคุณจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคหรือแอลกอฮอล์ จากนั้นเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าสะอาดหรือทิชชู่ ก็จะช่วยให้คราบน้ำมันจากไส้บุหรี่ติดมาออก ส่วนบริเวณใดที่เป็นกระจกให้ใช้น้ำยาเช็ดกระจกทั่วไป เมื่อเสร็จแล้วอย่าลืมจัดการเคลือบ ด้วยน้ำยาเคลือบเงาพลาสติกด้วย
ทำความสะอาดระบบแอร์ โดยมากแล้วต้นตอของปัญหาเรื่องกลิ่นต่างๆนั้น มีปัญหาหลักอยู่ที่ตู้แอร์ซึ่งเป็นที่ๆ อากาศ ถูกนำไปปรับอุณหภูมิให้เย็นสบายและอากาศที่มีควันบุหรี่เจือปนจะมีสิ่งไม่พึ่งประสงค์ต่างๆ ติด และเมื่อมันเป็นคราบฝังแน่น แอร์ก็จะมีกลิ่นนั้นๆ อยู่สม่ำเสมอเมื่อใช้งาน เพราะฉะนั้นแล้วคุณควรนำรถไปล้างตู้แอร์บ้างซึ่งในปัจจุบันมีการล้างตู้แอร์แบบใหม่ที่ไม่ต้องถอดตู้แอร์ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ซึ่งถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำมาข้างต้นทั้ง 3 ข้อก็น่าจะทำให้กลิ่นหายไปแน่นอนครับ
อย่างไรก็ตาม การรักษาความสะอาดภายในรถนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ คุณควรจะดูแล ทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1ครั้ง และ ที่สำคัญไม่ควรสูบบุหรี่ขณะขับรถเพราะไม่เพียงแต่จะมีกลิ่นบุหรี่เกาะติดอยู่เท่านั้น แต่ยังมีสารก่อมะเร็งเป็นของแถมติดอยู่ในรถคุณด้วย เมื่อมีผู้โดยสารหรือมีเด็กขึ้นรถไปด้วยก็อาจได้รับสารดังกล่าวนี้ไปด้วย ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขร่ำรวยเงินทอง กันทั่วหน้าครับ.
Cr. https://phithan-toyota.com/th/article/detail/1026/3
Recent Comments